tantawanSingha Parkไร่บุญรอด เชียงราย

เป็นไร่ของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์, ลีโอ ไร่บุญรอด ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บนพื้นที่นับพันไร่ ในบรรยากาศโอบล้อมด้วยภูเขา และ ธรรมชาติ ที่เพิ่งจะเปิดให้เข้าชมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ไร่บุญรอด เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2554 และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น สิงห์ปาร์ค เชียงราย ภายในไร่บุญรอดปลูกพืช ทำการเกษตรหลายชนิด เช่นไร่ชาอู่หลง, พุทราไต้หวัน, สตอร์เบอร์รี่, มัลเบอร์รี่, ยางพารา, ฟักทองยักษ์, ผัก – ผลไม้เมืองหนาว, ข้าวบาร์เลต์, ฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม ฯลฯ

ที่ตั้งของไร่บุญรอดตั้งอยู่ริมถนน 1211 หรือถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ที่นี่ไม่มีรถประจำทางผ่านต้องไปด้วยรถส่วนตัวหรือไม่ก็ต้องเหมาสองแถวรับจ้างเข้าไปก่อนที่จะเข้าไปในตัวไร่จะเห็นรูปปั้นสิงห์สีทองขนาดใหญ่อยู่บนเนินหญ้า เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปถ่ายรูป

การเข้าชมในไร่บุญรอด

นักท่องเที่ยวจะต้องจอดรถที่ลานจอดรถด้านหน้า แล้วลงทะเบียนเข้าชมที่โต๊ะข้างร้านกาแฟในรูปด้านล่าง การเข้าชมในไร่เส้นทางฟาร์มทัวร์จะต้องนั่งของทางไร่เท่านั้น ไม่สามารถขับรถเข้าไปได้เอง รถของไร่บุญรอดจะออกทุก 30-60 นาที ในแต่ละรอบจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 24 คนเท่านั้น ใช้เวลารอบละประมาณ 1 – 1 ชั่วโมง 30 นาที ในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนธันวาคม – มกราคม จะเต็มทุกรอบ ควรมาวันธรรมดาจะดีกว่า

การเข้าชมในไร่บุญรอดนั้นไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าชมได้ฟรี

ร้านกาแฟ ไร่บุญรอด

รถเข้าชมในไร่บุญรอด

จุดท่องเที่ยวในไร่บุญรอด (สิงห์ปาร์ค)

จุดที่ 1 เนินสิงห์ ลานดอกไม้ ทุ่งหญ้าหลากสี ร้านค้า ร้านชา กาแฟ ประชาสัมพันธ์ ที่จอดรถ

จุดที่ 2 ทะเลสาบและหงส์ สวนพุทธา ทุ่งดอกไม้ป่า

จุดที่ 3 ไร่ชาอู่หลง เนินดอกไม้ และผลไม้นานาชนิด

จุดที่ 4 ทุ่งหญ้าและวิถีชีวิตสัตว์

จุดที่ 5 ศูนย์จักรยาน พื้นที่จัดงาน Farm Festival

จุดที่ 6 จุดชมวิว 360 องศา พาโนรามาวิวพ้อยท์ ชมวิวทิวทัศน์เทือกเขารอบทิศ

จุดที่ 7 โรงเรือนระบบควบคุมอุณหภูมิแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาว

รอบในการชมไร่ของเราเป็นรอบ 14.00 น. เมื่อถึงเวลาแล้วจะมีพนักงานมาเรียกขึ้นรถ คนที่ลงทะเบียนแล้วเท่านั้นถึงจะขึ้นรถได้ ในรถ 1 คันจะมีไกด์ประจำรถ 1 คน ไกด์จะบรรยายรายละเอียดในจุดต่างๆ และข้อมูลทั่วไปของทางไร่ บรรยายได้สนุกและได้ความรู้ดีครับ

รถวิ่งผ่านจุดที่ 1 โดยไม่แวะจอดแต่จะบรรยายว่าตรงนี้ปลูกพืชอะไร ให้ผลผลิตตอนไหน

จุดที่ 2 ทะเลสาบและหงส์ สวนพุทธา ทุ่งดอกไม้ป่า

รถจอดที่จุดนี้ ให้เวลาประมาณ 5-10 นาที จุดนี้เป็นไร่พุทราพันธุ์ซื่อหมี่ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ เป็นพุทราสายพันธุ์จากไต้หวัน เป็นสายพันธุ์ที่มีรส หวาน กรอบ อร่อย และผลใหญ่ ในช่วงที่ออกผลจะมีวางจำหน่ายที่ร้านค้าบริเวณประชาสัมพันธุ์ใครที่อยากจะนั่งพักก็มีเต๊นท์ขายเครื่องดื่ม นอกจากนั้นก็มีอาหารปลาขาย สามารถให้อาหารปลาได้ที่ทะเลสาบที่อยู่หลังเต๊นท์ทะเลสาบขนาดใหญ่ของไร่บุญรอด เป็นแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ในทะเลสาบมีปลาจำนวนมาก และยังมีฝูงหงส์ขาวจำนวนหลายสิบตัวที่ทางไร่เพิ่งจะนำเข้ามาปล่อยถนนในไร่ ยาวไปสุดลูกหูลูกตา ถ้าเข้ามาเองยังไงก็ไปต่อไม่ถูก

จุดที่ 3 ไร่ชาอู่หลง เนินดอกไม้ และผลไม้นานาชนิด

จุดนี้จะปลูกผลไม้เมืองหนาว คล้ายกับในโครงการหลวงดอยอ่างขาง มีไร่สตอร์เบอร์รี่สายพันธุ์ 80 พันธุ์เดียวกับที่ปลูกบนดอยอ่างขาง สตอร์เบอร์รี่สายพันธุ์นี้มีรสหวาน หอม อร่อย ลูกสีแดง ให้ผลขนาดกลางการเข้าชมในไร่ ถ้ามีเด็กไปด้วยให้ระวังอย่าให้เด็กไปเด็ดผลไม้ของทางไร่สตรอเบอร์รี่มีพื้นที่ปลูกอยู่ไม่มาก เหมือนจะเป็นช่วงทดลองปลูกฟักทองยักษ์ เป็นพันธุ์ที่ใช้ประดับในงานฮาโลวีนที่ต่างประเทศ รับประทานไม่ได้ครับ ไกด์บอกว่าห้ามยกเล่น ถ้ายกแล้วเผลอทำหล่นมันจะแตก เก็บไว้ดูสวยๆ แบบนี้จะดีกว่า

ไร่ชาอู่หลง ถือว่าเป็นพระเอกของทางไร่บุญรอดเลย เป็นสินค้าของทางไร่ที่มีจำหน่ายเยอะมาก พื้นที่ปลูกชามีทั้งหมด 600 ไร่ ยาวไปสุดสายตาเลย ชาอู่หลงที่ปลูกจะเป็นสายพันธุ์จินซวน (Jin Xuan) หรือที่คนไทยเรียกกันว่าชาอู่หลงเบอร์ 12 เป็นสายพันธุ์จากประเทศไต้หวัน ไร่ชานั้นจะให้ผลผลิตดี มีรสอร่อยก็ต่อเมื่อปลูกในที่สูง อากาศหนาวพอเหมาะ โดยไร่บุญรอดสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 450 เมตรไร่ชาอู่หลง ไร่บุญรอด

จุดที่ 4 ทุ่งหญ้าและวิถีชีวิตสัตว์

ไร่บุญรอดเพิ่งจะมีสมาชิกใหม่เป็นยีราฟ และ ม้าลาย อย่างละประมาณ 10 ตัว เราสามารถชมยีราฟ และให้อาหารได้อย่างใกล้ชิดเห็นยีราฟตัวสูงยาวแบบนี้ มีอายุเพียง 1 ปีเศษๆ เท่านั้นยีราฟ และ ม้าลายเป็นสัตว์ไม่ดุร้าย เราสามารถป้อนอาหารกับมือได้เลย อาหารของยีราฟจะเป็นกล้วยครับ ดูหน้าตา เนื้อหนัง สัตว์ที่นี่ดูมีสุขภาพดีม้าลาย ลายสวยงาม ชัดเจนมากล่าสุดตอนนี้ 30/5/14 มีวัววาตูซี่ จากแอฟริกาใต้ ให้ได้ชมกันอีกด้วยทุ่งหญ้าในไร่บุญรอด พอเข้าสู่หน้าหนาวก็เริ่มแล้งแล้ว

จุดที่ 5 ศูนย์จักรยาน พื้นที่จัดงาน Farm Festival

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะขี่จักรยานชมในฟาร์ม แต่อาจจะไปไม่ได้ครบทุกจุดเหมือนมากับรถของทางไร่ ก็สามารถเช่าจักรยานขี่ได้ ช่วงที่เหมาะในการปั่นจักรยาน จะเป็นช่วงเช้า และ ช่วงเย็น เนื่องจากแดดไม่ร้อนมาก บ้านที่เห็นในรูปด้านบนบ้านแบบคาวบอย เป็นสถานที่จัดงาน Farm Festival

จุดที่ 6 จุดชมวิว 360 องศา พาโนรามาวิวพ้อยท์ ชมวิวทิวทัศน์เทือกเขารอบทิศ

จุดนี้เป็นจุดชมวิว ที่มองเห็นบรรยากาศในไร่ได้โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นไร่ชา ทะเลสาบ และยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารภูภิรมย์ ร้านอาหารประจำไร่บุญรอด ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย บรรยากาศดี ใช้วัตถุดิบจากไร่บุญรอดในการทำอาหาร มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารเหนือ แต่ราคาอาจจะแพงนิดนึง ถ้าจะมาทานข้าวที่ร้านอาหารภูภิรมย์ ต้องขับรถเข้ามาเองถ้าใครมีโอกาสได้มาทานเมนูแนะนำของเค้าจะมีดังนี้ครับ ไก่ย่างภูภิรมย์, ต้มยำปลาคัง, แกงฮังเล, ออเดิร์ฟเมือง โดยทานคู่กับเครื่องชื่มชาอู่หลง และ น้ำเสาวรส ไร่ชา จุดชมวิวไร่ชา และ ทะเลสาบ เนินในรูปด้านบนจะเป็นที่ตั้งของร้านอาหารภูภิรมย์

จุดที่ 7 โรงเรือนระบบควบคุมอุณหภูมิแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาว

จุดนี้เป็นโรงเรือนสำหรับปลูกพืชเมืองหนาว หน้าโรงเรือนจะมีกังหันลมหลายสิบตัวปักอยู่กับพื้นดินในโรงเรือนจะมีพัดลมระบายอากาศ จัดทิศทางให้อากาศไหลผ่าน ทำให้อุณหภูมิในโรงเรือนต่ำกว่าอุณหภูมิด้านนอกถึง 5 องศา สามารถปลูกพืช ผัก เมืองหนาวได้สตอเบอร์รี่ ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ และ เชียงราย จากที่ได้ถามกับไกด์มา ทางไร่บุญรอดยังไม่มีสตอเบอร์รี่สดจำหน่าย ผลผลิตของทางไร่ยังไม่เยอะพอดอกไม้เมืองหนาวแปลงนี้จะเป็นการปลูกพืชไร้ดิน (hydroponic) ส่วนมากจะเป็นตระกูลผักกาดหรือผักสลัดผักเมืองหนาว ผู้ชายเสื้อเทาเป็นไกด์ของเราในรอบนี้ บรรยายสนุก ตลก อารมณ์ดี ถ้าใครไปทัวร์ไร่บุญรอดแล้วเจอไกด์ท่านนี้รับรองสนุกแน่ครับ กระหล่ำ พริกหยวก คาโมมายด์ ต้นไม้มีกลิ่นหอม ถ้าไปถึงแล้วลองไปดมดูกันครับ ราสเบอร์รี่

น้ำเต้ายักษ์

รวมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รถก็พากลับมาจุดเดิม ตรงที่ขึ้นรถ เป็นทัวร์ที่สนุก ได้ความรู้ ได้ชมบรรยากาศในไร่ที่สวยงาม แถมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซักบาท ต้องขอบคุณไร่บุญรอด ที่เปิดให้เข้าชมกันแบบฟรีๆ

กิจกรรมใหม่ล่าสุดของไร่บุญรอด Singha Park The Adventure : Unlock Your Limit Zipline

เป็นกิจกรรม Adventure โรยตัวผ่านลวดสลิง หรือที่เรียกกันว่า Zipline ด้วยความยาวกว่า 1,400 เมตร จากเนินในไร่บุญรอด ผ่านไร่ชา ระหว่างทางมองเห็นวิวในไร่ได้ 180 องศา

Boon Rawd Farm, Chiang Rai

Is a ranch of Boon Rawd Brewery Company Limited, Singha beer maker, Leo Boon Rawd Farm. This is an agricultural tourist destination. On an area of ​​thousands of acres In an atmosphere surrounded by mountains and nature that has just been opened for viewing a few years ago

Boon Rawd Farm opened for the first time in 2011 and later changed its name to Singha Park in Chiang Rai. Doing many kinds of agriculture Such as Oolong Tea Plantation, Taiwan Jujube, Strawberry, Mulberry, Rubber, Giant Pumpkin, Winter Fruits and Vegetables, Barlet, Dairy Cattle Farm etc.

The location of Rai Boon Rawd is on the side of Roads 1211 or the prominent Ha Ha-Dong Mada road. It is about 16 kilometers southwest of Chiang Rai city. There are no buses, must go by private car or hire a Songthaew to get in. Before entering the farm, you will see a large golden lion statue. On the hill Is a popular spot for tourists to take pictures

Visits in Boon Rawd Farm

Visitors must park the car in the front parking lot. And register to visit the table next to the coffee shop in the picture below. Admission to the ranch on the Farm Tour route must be carried by the ranch only. Can’t drive in by myself The cars of Boon Rawd Farm will depart every 30-60 minutes. Each round will only accommodate 24 people. Each round will take about 1 – 1 hour 30 minutes. During the holiday season, December – January will be full, every round should come on weekdays. Is better

Admission to Boon Rawd Farm is free. Admission is free.

Boon Rawd Coffee Shop

Car to visit in Boon Rawd Farm

Tourist spots in Boon Rawd Farm (Singha Park)

Point 1 Noen Sing, Lan, flower, colorful meadow, shop, tea shop, coffee, public relations, parking

Point 2 lake and swan, Puttha Gardens, wild flower fields

Point 3 Oolong tea plantation, various flowers and fruits

Point 4 Meadows and animal life

Point 5: Bicycle center at the Farm Festival event area

Point 6, 360-degree panoramic viewpoint, panoramic viewpoint View views of the surrounding mountains.

Point 7, house temperature control system, winter vegetable plantations

The round to see our farm is around 14.00 hrs. When it’s time to have a staff to call in the car. Only registered people can get in the car. 1 car will have 1 car guide. The guide will explain in detail the various points. And general information of the farm Fun lectures and good knowledge.

The car ran past point 1 without stopping to stop, but will describe what plants are planted here. When to produce

Point 2 lake and swan, Puttha Gardens, wild flower fields

The car stopped at this point. Allowing around 5-10 minutes, this point is the jujube plantation. On an area of ​​over 100 rai, is a jujube species from Taiwan Is a species with sweet, crispy, tasty and large fruits. During the fruiting season, they will be available for sale at shops in the Pra Sam Saphan area. Anyone wishing to sit and rest will have a tent to sell drinks. Other than that there are fish food for sale. Fish can be fed at the lake behind the large lake tent of Boon Rawd Farm. Is a water source for use in the dry season In the lake there are many fish. And there are dozens of white swans that the farm has just brought into releasing the road in the farm Extensively If you come in by yourself, then you can’t continue.

Point 3 Oolong tea plantation, various flowers and fruits

This point will plant winter fruit. Similar to the Doi Ang Khang Royal Project There are 80 strawberry species that are grown on Doi Ang Khang. This strawberry species has a sweet, fragrant, delicious taste. The red balls give a medium effect. If there are children, be careful not to let the children pick the fruit of the strawberry farm, there is not much space to grow It looks like it was during the experiment of growing giant pumpkins. Is a species that is used to decorate for Halloween in foreign countries Cannot eat The guide said don’t play. If dropped and accidentally dropped, it will break. Keep it beautiful This would be better

Oolong Tea Plantation is considered the hero of Boon Rawd Farm. Is a product of the farm that has a lot of sales The tea plantation area has a total of 600 rai, all the way to the eye. Oolong tea is cultivated as a Jin Xuan strain, or as Thai people call it, Oolong tea number 12, a strain from Taiwan. Tea plantations will give good results. It is delicious when grown in high ground. The weather is cold By Boon Rawd Farm, 450 meters above sea level

Point 4 Meadows and animal life

Boon Rawd Farm has just got a new member, about 10 giraffes and zebras. We can see the giraffes. And feeding closely. Long and tall giraffes are only 1 year old. Giraffes and zebras are non-ferocious animals. We can feed food directly to the hand. The food for the giraffes is bananas. Look at the face. The animal skin here looks healthy. The zebra pattern is beautiful, very clear. The latest is now 30/5/14. To see each other as well. Meadows in Boon Rawd Farm When entering the cold season, it is already dry.

Point 5: Bicycle Center at the Farm Festival event space

For tourists who would like to ride a bike to see the farm. But may not be able to reach all points, like coming with the car of the farm Can rent a bike to ride The best time for biking Will be the morning and evening as the sun is not very hot The house seen in the above picture is a cowboy style house. Is the location of the Farm Festival

Point 6, 360-degree panoramic viewpoint, panoramic viewpoint View views of the surrounding mountains.

This point is a viewpoint. That can see the atmosphere in the surrounding farm Whether it is a tea plantation, lake and also the location of the Phu Phirom restaurant. Boon Rawd Farm Restaurant Known for delicious food, good atmosphere, using ingredients from Boon Rawd Farm for cooking. There are Thai food, Western food, Northern food, but the price may be a little expensive. If going to eat at Phu Phirom restaurant Have to drive by yourself. If anyone has a chance to come to eat, their recommendations will be as follows. Phu Phirom grilled chicken, Tom Yam Pla Kang, Hunglae ​​curry, Northern city curry By eating with oolong tea and passion fruit tea

การเข้าชม
เวลาทำการ :ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30 – 17.00 น.
ช่วงเวลาเที่ยว :ตลอดทั้งปี

ค่ารถนำเที่ยวแบบฟาร์มทัวร์

  • ราคาคนละ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบฟรี

รถจะจอดให้ชมไร่ทั้งหมด 4 จุด คือ

  1. ไร่ชา และดอกคอสมอส
  2. จุดชมชีวิตสัตว์
  3. จุดซุ้มน้ำเต้ายักษ์ ศูนย์นันทนาการบ้านแดง
  4. จุดชมวิว บริเวณร้านอาหารภูภิรมย์

ในส่วนของฟาร์มทัวร์จะปิดตั้งแต่เดือน มี.ค. – ต.ค. และจะเปิดให้บริการในช่วงหน้าหนาว พ.ย. – ก.พ. แต่ร้านอาหารภูภิรมย์เปิดให้บริการปกติ

การเดินทาง
รถยนต์ :จากถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองเชียงราย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 1208 ข้างวัดร่องขุ่น แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยก 1211 ขับตรงมาประมาณ 2 กิโลเมตรจะเจอกับไร่บุญรอดอยู่ทางซ้ายมือ จุดสังเกตเป็นรูปปั้นสิงห์สีทองขนาดใหญ่ที่เนินหญ้าซ้ายมือระหว่างทางไปไร่บุญรอด ไม่ค่อยมีป้ายบอกทางควร print แผนที่ไปด้วยจะได้ไม่หลง